• /int
  • /eu
  • /uk
  • /au
  • http://www.axi.group/ar-ae
  • http://www.axi.group/en-ae
  • http://www.axiedge.site/en-my
  • http://www.axiedge.site/cn
  • /chn
  • /es-mx
  • /fr-ma
  • http://www.edge-cn.co/id
  • /it-ch
  • /jp
  • /kr
  • /pl
  • /pt
  • /th
  • /tw
  • http://www.axiedge.site/vn
  • /zh-au
  • /za
  • http://www.solarisih.com/vu
Form not found

การคาดการณ์/พยากรณ์ราคา Ripple (XRP) ในปี 2024-2050

Cryptocurrencies /
Alex Macris

Ripple และ XRP คืออะไร

Ripple

RipplePay ก่อตั้งขึ้นในปี 2004 โดย Ryan Fugger ซึ่งเป็นนักพัฒนาเว็บไซต์ในแวนคูเวอร์ เขามองว่า RipplePay เป็นเครือข่ายทางการเงินแบบ Peer-to-Peer ที่จะเป็นคู่แข่งของสถาบันการเงินที่มีอยู่ RipplePay ถือกำเนิดขึ้นก่อน Bitcoin (สกุลเงินดิจิทัลเจ้าใหญ่สกุลแรก) โดยมีเป้าหมายเพื่ออำนวยความสะดวกในการชำระเงินที่ปลอดภัยทั่วโลก และช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้ผู้คนและชุมชนพัฒนาสกุลเงินเสมือนของตนเอง

ต่อมาในปี 2011 ผู้บุกเบิก Bitcoin ในยุคแรกและ Jed McCaleb ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งตลาดแลกเปลี่ยน Mt. Gox ร่วมกับ Chris Larsen ได้ติดต่อ Fugger โดยมีแนวคิดที่จะเปลี่ยน RipplePay ให้เป็นระบบสกุลเงินดิจิทัลตามฉันทามติของสมาชิกเครือข่าย

พวกเขานำเสนอ XRP เป็นทางเลือกแทน Bitcoin เนื่องจากการขุด Bitcoin ต้องใช้พลังงานมาก โดยระบบนี้นำ Cobalt ซึ่งเป็นวิธีที่ปลอดภัยเพื่อให้ทุกคนเห็นพ้องต้องกันแม้ว่าบางส่วนจะล้มเหลวก็ตาม มาผสมผสานเข้ากับ Ripple Protocol Consensus Algorithm ซึ่งเป็นวิธีการที่ออกแบบมาเพื่อทำให้เกิดความเห็นพ้องต้องกันที่รวดเร็วและเชื่อถือได้โดยเฉพาะ

แม้ว่าโทเค็น XRP ของ Ripple จะใช้ XRP Ledger สาธารณะเพื่อจัดเก็บรายละเอียดธุรกรรม แต่เครือข่ายการชำระเงินไม่ได้ใช้การขุดเพื่อตรวจสอบยืนยันและบันทึกธุรกรรมใหม่ ทั้งนี้ เพื่อรักษาบัญชีแยกประเภทธุรกรรมไว้และสร้างฉันทามติอย่างรวดเร็ว XRP Ledger จึงจำเป็นต้องมีโหนดตรวจสอบยืนยันที่เชื่อถือได้

หลังจากนั้น Fugger ได้พลิกฟื้นโปรเจกต์นี้ ส่งผลให้เกิดการก่อตั้ง OpenCoin ซึ่งในที่สุดก็กลายเป็น Ripple Labs

Ripple ได้พัฒนาขึ้นจนกลายเป็นที่รู้จักในทุกวันนี้ในปี 2012 McCaleb, Arthur Britto และ David Schwartz (ผู้วางแผนซึ่งอยู่เบื้องหลัง XRP Ledger และ Ripple CTO คนปัจจุบัน) ได้พัฒนาเครือข่ายฉันทามติหลักขึ้นมา ส่งผลให้เกิดการรีแบรนด์ RipplePay โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อพลิกโฉมการชำระเงินข้ามพรมแดน

เทคโนโลยีของ Ripple นำเสนอโซลูชันสำหรับธนาคารและสถาบันการเงินโดยการแทนที่ระบบระหว่างประเทศแบบเดิมๆ ที่ “เชื่องช้าและล้าสมัย” เช่น SWIFT ซึ่งช่วยให้สามารถทำธุรกรรมให้เสร็จสิ้นได้ทันที จากเดิมที่อาจใช้เวลาหลายวัน

Ripple แตกต่างจากสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ มากมาย โดยมีการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนของ Ripple มาใช้โดยตรงเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมระหว่างธนาคาร จึงไม่จำเป็นต้องพึ่งพาสถาบันการเงินที่เป็นตัวกลาง และด้วยเหตุนี้ จึงลดต้นทุนและความล่าช้าในการทำธุรกรรมลงได้ ตามที่ Brad Garlinhouse ซึ่งเป็น CEO คนปัจจุบัน กล่าวว่า “เราเชื่อว่าคริปโตและเงินทั่วไปนั้นฟรี” ข้อหนึ่งที่ควรหยิบยกขึ้นมาพูดถึงก็คือ ระบบนิเวศของ Ripple สามารถจัดการธุรกรรมที่ใช้สกุลเงินอื่นที่ไม่ใช่ XRP ได้

แม้ว่า Ripple จะมุ่งเน้นไปที่การให้สถาบันการเงินใช้บัญชีแยกประเภทสำหรับการชำระเงินข้ามพรมแดนและการจัดการ Central Bank Digital Currency (CBDC) แต่ฟังก์ชันการทำงานของ XRP นั้นครอบคลุมไปไกลกว่านั้น การที่ Ripple ผสานการทำงานเข้ากับกระเป๋าเงินดิจิทัลนั้นแสดงให้เห็นถึงประโยชน์ในด้านการเงินส่วนบุคคล นอกจากนี้ การพูดคุยเกี่ยวกับเทคโนโลยี XRP และ Web3 ชี้ให้เห็นถึงการใช้งานที่เป็นไปได้ในโลกแห่งของสะสมดิจิทัล เกม และเศรษฐกิจดิจิทัลในวงกว้าง จึงทำให้ XRP อยู่ในตำแหน่งผู้เล่นหลักในวงการเงินแห่งอนาคต

Ripple มีเป้าหมายเพื่อทำให้ธนาคารและธุรกิจอื่นๆ ใช้ XRP ได้ง่ายยิ่งขึ้นโดยการจัดหาเครื่องมือใหม่ๆ (เช่น Liquidity Hub) และการอัปเดตทางเทคนิคต่างๆ ที่ช่วยให้การจัดการ XRP และการมีส่วนร่วมในเครือข่าย Ripple เป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้น

ในที่สุดแล้ว อาจทำให้มีเงินไหลผ่านระบบมากขึ้นและช่วยให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นสำหรับทุกคนที่เกี่ยวข้อง ในทุกวันนี้ ได้มีการผสานเทคโนโลยีของ Ripple โดยสถาบันการเงินมากกว่า 100 แห่งทั่วโลก ซึ่งบ่งชี้ถึงการยอมรับที่เพิ่มขึ้นและศักยภาพในการขยายการประมวลผลการชำระเงินระหว่างประเทศในวงกว้างยิ่งขึ้น

XRP

XRP Tokenomics

สกุลเงิน XRP ของ Ripple ได้รับการสร้างขึ้นล่วงหน้า (ขุดไว้ล่วงหน้า) เมื่อตอนที่เปิดตัวในปี 2013 โดยมีจำนวนรวม 1 แสนล้านเหรียญ จึงไม่จำเป็นต้องขุดเพื่อสร้างสกุลเงินใหม่

ผู้ก่อตั้งได้รับ 20% โดย Ripple ได้รับ 80% ในส่วนที่เหลือ Ripple ได้ล็อก XRP จำนวน 5.5 หมื่นล้านเหรียญไว้ในบัญชีเอสโครว์บน XRP Ledger เมื่อเดือนธันวาคม 2017 บัญชีเหล่านี้ทำหน้าที่เหมือนเป็นสถานที่ถือครองเพื่อที่ XRP จะได้ไม่หมุนเวียนอย่างอิสระในตลาด ในแต่ละเดือน จะมีการปล่อย XRP 1 พันล้านเหรียญออกจากเอสโครว์เพื่อให้สามารถคาดการณ์ได้

XRP ส่วนที่เหลือจะถูกนำไปไว้ในบัญชีเอสโครว์ใหม่โดยเพิ่มเดือนใหม่เข้าไปอีกเดือนหนึ่งในกำหนดการเผยแพร่

XRP มีลักษณะภาวะเงินฝืดเล็กน้อย โดยมีการเผาต้นทุนในการทำธุรกรรมเพื่อป้องกันการโจมตีด้วยสแปม โดยมีการคาดการณ์ว่าซัพพลายของ XRP อาจอยู่ได้นานถึง 70,000 ปี เนื่องจากกลไกภาวะเงินฝืดนี้ แม้ว่าจะขึ้นอยู่กับการพัฒนาในอนาคตก็ตาม แม้ว่าการเผา XRP จะส่งผลให้เกิดภาวะเงินฝืด แต่ก็มีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบน้อยมากต่อราคาในระยะสั้นถึงระยะกลาง Ripple วางแผนไว้อย่างรอบคอบในการเพิ่มซัพพลายหมุนเวียนของ XRP ในขณะที่รักษาสภาพคล่องไว้

Chris Larsen และ Jed McCaleb ผู้ก่อตั้ง Ripple Labs มีส่วนร่วมในการขาย XRP ที่ตนเองถือครองอยู่ ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อราคาของสกุลเงินดิจิทัล McCaleb ซึ่งได้รับ XRP จำนวนมหาศาลจากการเปิดบริษัท ได้ตกลงเมื่อปี 2014 ว่าจะไม่เทขาย XRP จำนวน 9 พันล้านเหรียญที่เขาถือครองอยู่ อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาประกาศว่าตั้งใจที่จะขายทั้งหมดในช่วง 2 สัปดาห์ ราคาของ Ripple ก็ตกลง 40%

Chris Larsen ยังได้บริจาค XRP จำนวน 7 พันล้านเหรียญให้กับ Ripple Foundation for Financial Innovation เพื่อช่วยเหลือผู้บริโภคทั่วโลกที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการและผลิตภัณฑ์ทางการเงินหลักได้ การขาย XRP โดยผู้ก่อตั้ง โดยเฉพาะ McCaleb แสดงให้เห็นถึงผลกระทบจากการเทขายจำนวนมากจากบุคคลสำคัญที่อาจมีต่อมูลค่าตลาดของสกุลเงินดิจิทัล

ในขณะที่เขียนบทความนี้ในเดือนมิถุนายน 2024 มี XRP ที่หมุนเวียนอยู่มากกว่า 5.54 หมื่นล้านเหรียญ

 

การต่อสู้ทางกฎหมายระหว่าง Ripple กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC)

SEC ของสหรัฐอเมริกาได้ยื่นฟ้อง Ripple เมื่อเดือนธันวาคม 2020 โดยระบุว่าการขาย XRP นั้นเทียบเท่ากับการขายหุ้นที่ไม่ได้จดทะเบียน และ Ripple ดำเนินการเสนอขายหลักทรัพย์ที่ไม่ได้จดทะเบียนเกินกว่า 1.3 พันล้านดอลลาร์ผ่านการขาย XRP การฟ้องร้องนี้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อตลาด XRP และราคาของ XRP Ripple ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง

กว่าสองปีต่อมาในเดือนกรกฎาคม 2023 ศาลได้มีคำพิพากษาแบบผสม แม้ว่าการขาย XRP ในตลาดแลกเปลี่ยนและผ่านอัลกอริทึมจะไม่ถือเป็นหลักทรัพย์ แต่ผู้พิพากษามีคำตัดสินต่างออกไปสำหรับการที่ Ripple ขายตรงให้กับสถาบันต่างๆ SEC ตอบโต้อย่างแข็งกร้าวในเดือนมีนาคม โดยเรียกร้องให้ Ripple จ่ายค่าปรับและบทลงโทษมากกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ ในเดือนพฤษภาคม 2024 ได้มีการฟ้องร้องคดีสำคัญในชั้นศาลซึ่งเกี่ยวข้องกับการเข้าถึงบันทึกทางกฎหมายของ Ripple ที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรม XRP ผลการพิจารณานี้อาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อคดีนี้

คดีความที่ฟ้องร้องกันอยู่นั้นทำให้ Ripple ตกอยู่ในเงามืด การที่ SEC วิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับสเตเบิลคอยน์ที่ยังไม่เผยแพร่ของ Ripple ว่าเป็น "สินทรัพย์คริปโตที่ไม่ได้จดทะเบียน" ยังตอกย้ำถึงความคลุมเครือด้านกฎระเบียบของบริษัทอีกด้วย นอกจากนี้ ตลาดแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลบางแห่งได้เพิกถอน XRP เนื่องจากการฟ้องร้องในครั้งแรก แม้ว่าผู้เล่นใหญ่ๆ บางรายจะนำ XRP กลับมาลงขายหลังจากที่ศาลมีคำตัดสิน

Ripple และ MoneyGram ซึ่งเป็นบริษัทโอนเงินของสหรัฐฯ ได้ร่วมกันเป็นพันธมิตรครั้งสำคัญเมื่อเดือนมิถุนายน 2019 โดยลงทุน 50 ล้านดอลลาร์เพื่อใช้ RippleNet และ XRP สำหรับการชำระเงินข้ามพรมแดน อย่างไรก็ตาม ในเดือนกุมภาพันธ์ 2021 MoneyGram ยุติการร่วมเป็นพันธมิตรดังกล่าวเนื่องจากการฟ้องร้องแบบกลุ่ม

ต่อมา MoneyGram ได้ประกาศการร่วมเป็นพันธมิตรครั้งใหม่กับ Stellar แม้ว่า Ripple จะอ้างว่าการร่วมเป็นพันธมิตรดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงการใช้งาน XRP ในโลกแห่งความเป็นจริงก็ตาม การร่วมเป็นพันธมิตรที่พังครืนลงมานั้นมีสาเหตุมาจากความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบและต้นทุนที่สูงสำหรับ MoneyGram

 

การพัฒนาล่าสุดของ Ripple และ XRP

ในการพัฒนาครั้งใหญ่ Ripple ได้ประกาศแผนที่จะเปิดตัวสเตเบิลคอยน์ที่หนุนด้วย USD ในปี 2024 โดยจะเปิดตัวสเตเบิลคอยน์ครั้งแรกบน XRP Ledger และบล็อกเชน Ethereum โดยมีแผนที่จะขยายไปยังบล็อกเชน และแพลตฟอร์ม DeFi ต่างๆ

ยังไม่ชัดเจนว่าการเปิดตัวสเตเบิลคอยน์นี้จะเป็นการจำกัดหน้าที่ของ XRP ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลดั้งเดิม หรือเพิ่มประโยชน์และสภาพคล่องของ XRP กันแน่ XRP จะทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมสินทรัพย์สำหรับสเตเบิลคอยน์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องและประสิทธิภาพในการทำธุรกรรม สเตเบิลคอยน์อาจช่วยให้ระบบนิเวศของ Ripple เป็นที่ยอมรับมากขึ้น เนื่องจากสถาบันการเงินบางแห่งยังมีความลังเลที่จะเปิดรับสินทรัพย์ที่มีความผันผวนดังกล่าว

เป็นที่น่าสังเกตว่าเวลาในการยืนยันธุรกรรมที่รวดเร็วกว่าของ XRP ซึ่งโดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 3-5 วินาที สามารถบรรเทาความผันผวนที่เกี่ยวข้องกับการโอนได้ เมื่อเทียบกับ Bitcoin ซึ่งอาจใช้เวลานานกว่ามากในการยืนยัน

แม้จะมีชุมชนที่เฟื่องฟูและมีข้อพิพาททางกฎหมายที่รู้กันไปทั่ว แต่การนำผลิตภัณฑ์ของ Ripple นั้นยังไม่เต็มประสิทธิภาพ ทางเลือกที่น่าเชื่อถืออย่าง Tether และ Circle อาจช่วยกระจายแหล่งรายได้ให้หลากหลายยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของค่าปรับที่อาจต้องจ่ายให้กับ SEC

ตลาดสเตเบิลคอยน์คาดว่าจะมีมูลค่าตามราคาตลาดเกือบ 3 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2028 เนื่องด้วยการแข่งขันจากสเตเบิลคอยน์ที่มีอยู่ เช่น USDC และ Tether จึงอาจจำเป็นต้องปรับโซลูชันทางการเงินแบบครบวงจรของ Ripple ให้เข้ากับบล็อกเชนอื่นๆ เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ แม้ว่า XRP Ledger จะมีข้อได้เปรียบ แต่การนำไปใช้ในวงกว้างอาจจำเป็นต้องอาศัยการทำงานร่วมกับบล็อกเชนยอดนิยมอื่นๆ

Ripple ยังคาดหวังถึงการร่วมเป็นพันธมิตรในเชิงกลยุทธ์และการเติบโต รวมถึงการผสาน XRP เข้ากับเกมแบทเทิลรอยัลของบุคคลที่สามกับ Futureverse และยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้และนักพัฒนาบล็อกเชนในแอปพลิเคชันในวงกว้างขึ้น นอกจากนี้ Ripple กำลังผสานการทำงานของ AI เข้ากับข้อเสนอของตนเอง เพื่อขยายฟังก์ชันการทำงานและความสามารถของแพลตฟอร์มบล็อกเชนในภาคส่วนต่างๆ อีกด้วย

 

อะไรที่มีผลกระทบต่อราคาของ XRP/USD

ความเชื่อมั่นในตลาดนั้นมีบทบาทสำคัญ โดยมีการพัฒนาเชิงบวก เช่น ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของ Ripple หรือความคาดหวังเกี่ยวกับ XRP ETF ที่กระตุ้นให้เกิดการทุ่มเงินซื้อ ในทางกลับกัน การดำเนินการด้านกฎระเบียบ การเคลื่อนไหวของตลาดในวงกว้างใน Bitcoin และ Ethereum หรือแม้แต่ข่าวลือบนโซเชียลมีเดียก็สามารถลดทอนความเชื่อมั่นได้

นอกจากนี้ กิจกรรมทางการเงินแบบเดิมๆ ยังส่งผลต่อความเชื่อมั่นโดยรวมอีกด้วย สถาบันการเงิน นักลงทุนรายใหญ่ และเครือข่าย RippleNet ล้วนมีผลกระทบโดยตรงต่อมูลค่าภายในของ XRP ฟังก์ชันการทำงานใหม่นอกเหนือจาก RippleNet ก็ช่วยเพิ่มความน่าสนใจได้เช่นกัน

ท้ายที่สุดแล้ว การดำเนินแก้ไขในเชิงบวกต่อการฟ้องร้องโดย SEC ที่กำลังดำเนินอยู่นั้นอาจช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นของนักลงทุนได้อย่างมาก และอาจทำให้ราคาขยับสูงขึ้นได้ หากติดตามปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ เทรดเดอร์ก็จะได้รับข้อมูลเชิงลึกที่มีประโยชน์เกี่ยวกับความเชื่อมั่นในตลาดและการเคลื่อนไหวของราคา XRP ที่อาจเกิดในอนาคต

 

ประสิทธิภาพด้านราคาที่ผ่านมา*

*การอ้างอิงการคาดการณ์และผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต  

ผลการดำเนินงานของ XRP/USD ที่ผ่านมา

XRP เปิดตัวในปี 2012 โดยมีการซื้อขายในราคาเพียงเศษเสี้ยวของเซนต์จนถึงสิ้นปี 2017 เริ่มตั้งแต่ปี 2018 ความสนใจในสกุลเงินดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นและการที่ Ripple ร่วมเป็นพันธมิตรกับสถาบันการเงินรายใหญ่ ทำให้ราคาทะยานสูงขึ้นถึง 3.80 ดอลลาร์ในตลาดแลกเปลี่ยนเงินดิจิทัลหลายแห่ง

หลังจากที่แตะจุดสูงสุดในปี 2017 ตลาดแลกเปลี่ยนเงินดิจิทัลทั้งตลาดก็เผชิญกับสภาพตลาดหมีที่ยืดเยื้อ ในระหว่างนั้นราคาของ XRP ก็ตกลงต่ำกว่า 1 ดอลลาร์ ในช่วงที่ Bitcoin พุ่งขึ้นในเดือนเมษายน 2021 ราคาของ Ripple ก็ขยับเพิ่มขึ้นสูงกว่า 1 ดอลลาร์อีกครั้ง

ตั้งแต่ต้นปี 2018 ราคาของ XRP ก็ตกลงมากกว่า 85% จากจุดสูงสุด

ซัพพลายหมุนเวียนโดยประมาณเกินกว่า 5.54 หมื่นล้านหน่วย ซึ่งคิดเป็น 50% กว่าๆ เทียบกับซัพพลายสูงสุดที่ 1 แสนล้านหน่วย นอกเหนือจากข้อพิพาทในชั้นศาลที่ยืดเยื้อกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) แล้ว ราคาของเหรียญนี้ยังถูกฉุดให้ต่ำลงเป็นเวลาถึง 8 ปี เนื่องจากหนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัทเทขาย XRP ที่เขาถือครองอยู่ 9 พันล้านเหรียญอย่างต่อเนื่องถึง ซึ่งเขาเทขายมานับตั้งแต่ที่แยกตัวออกมาในปี 2014

การที่เหรียญมีเสถียรภาพในช่วงนี้อาจบ่งชี้ถึงตลาดที่อิ่มตัวมากขึ้น แต่สิ่งสำคัญที่ควรพิจารณาคือ ราคาของสกุลเงินดิจิทัลอาจได้รับอิทธิพลจากข่าวที่ไม่คาดคิดและการเปลี่ยนแปลงในตลาด

ราคาต่ำสุดและสูงสุดในแต่ละปีนับตั้งแต่ปี 2017 

ปี

ราคาต่ำสุด (USD)

ราคาสูงสุด (USD)

2017

0.003 2.47

2018

0.245 3.32

2019

0.175 0.505

2020

0.114 0.79

2021

0.208 1.97

2022

0.287 0.918

2023

0.3 0.948

2024

0.426 0.745

ไซเคิลสูงสุดและต่ำสุดที่ผ่านมา 

ปี

สูงสุด

ปี

ต่ำสุด

% ของราคาที่ร่วง

2018

3.32

2020

0.114 -96.6%

2021

1.97

2022

0.287 -85.4%

 

การคาดการณ์ราคา XRP ในปี 2024-2050

ราคาและการคาดการณ์ที่แสดงในตารางนี้และในส่วนที่ตามมานั้นมาจากข้อมูลของบุคคลที่สามและมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอภาพรวมของความเชื่อมั่นในตลาดในปัจจุบัน

แหล่งข้อมูล / ปี

2024

2025

2030

2040

2050

Consensus Rating (Binance Users)

$0.519 $0.543 $0.693 * *

Coincodex

* $0.337 - $1.67 $0.428 - $1.74 * *

CoinPedia

$1.6 - $2.23 (เฉลี่ย $1.915) $2.47 - $3.38 (เฉลี่ย $2.925) $13.8 - $16.24 (เฉลี่ย $15.02) * *

Techopedia

$0.3 - $3.1 (เฉลี่ย $1.8) $1.5 - $4.5 (เฉลี่ย $3) $3 - $9 (เฉลี่ย $6) * *

Token Metrics

* $0.31 - $0.636 $1.06 - $1.12 * *

Coinlore

* $1.15 $2.28 $7.21 *

WeStarter

$0.748 - $0.995 (เฉลี่ย $0.828) $1.05 - $1.26 (เฉลี่ย $1.12) $2.82 - $3.18 (เฉลี่ย $3.11) $4.29 - $5.96 (เฉลี่ย $4.9) $6.29 - $7.8 (เฉลี่ย $7.12)

Zach Humphries

* $3.81 * * *

* ไม่มีการคาดการณ์ราคาในปีนี้จากแหล่งข้อมูลนี้

 

การคาดการณ์ราคา XRP ในปี 2024

ตั้งแต่ปี 2024 การคาดการณ์ราคา XRP มีความหลากหลายแตกต่างกันไป ในขณะที่บางแหล่ง เช่น ฉันทามติของผู้ใช้ Binance คาดการณ์ว่าราคาจะอยู่ที่ 0.519 ดอลลาร์ภายในเดือนมิถุนายน แต่ XRP ก็ทะลุระดับนั้นไปแล้วเมื่อเดือนมีนาคม โดยขึ้นไปแตะที่ 0.745 ดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม Coinpedia เตือนถึงแนวโน้มขาลงที่อาจเกิดขึ้นในรูปแบบสามเหลี่ยมรายสัปดาห์ โดยมีโอกาสขึ้นไปแตะที่ระดับสูงถึง 2.23 ดอลลาร์

ปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งในปี 2024 คือการฟ้องร้องที่ดำเนินอยู่ระหว่าง Ripple กับ SEC จากข้อมูลของ Techopedia หาก Ripple ชนะคดี ก็จะกระตุ้นให้ราคาของ XRP พุ่งขึ้นได้อย่างมาก โดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 1.80 ดอลลาร์ภายในสิ้นปี อย่างไรก็ตาม มีการเตือนว่าราคาอาจแกว่งไปมาระหว่าง 0.30 ถึง 3.10 ดอลลาร์ โดยขึ้นอยู่กับคำตัดสินของศาล

การคาดการณ์ของ WeStarter ที่มีต่อ XRP ในปี 2024 มีลักษณะระมัดระวังมากกว่า โดยมีราคาสูงสุดอยู่ที่ 0.99 ดอลลาร์ และต่ำสุดที่ 0.75 ดอลลาร์ โดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 0.83 ดอลลาร์ในปีนี้

โดยรวมแล้ว ปี 2024 ดูเหมือนจะเป็นปีแห่งความเป็นไปได้สำหรับ XRP โดยคดีที่ SEC ฟ้องร้องนั้นถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าผลลัพธ์จะออกมาอย่างไร

 

การคาดการณ์ราคา XRP ในปี 2025

เมื่อมองไปในอนาคตถึงปี 2025 การคาดการณ์ราคา XRP มีความเป็นไปได้ที่หลากหลาย ฝ่ายที่มองโลกในแง่ดีอย่าง Coinpedia และ Zach Humphries ซึ่งเป็นนักวิเคราะห์ YouTube คาดถึงการเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยคาดการณ์ว่าจะขึ้นไปแตะถึง 3.38 ดอลลาร์หรือแม้กระทั่ง 3.81 ดอลลาร์ Coinpedia ชี้ให้เห็นถึงศักยภาพของ XRP ในการชำระเงินข้ามพรมแดนและการร่วมเป็นพันธมิตรที่มีอยู่ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตนี้ ในขณะเดียวกันก็ยอมรับถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น เช่น วิกฤตการณ์ทั่วโลก

Techopedia ยึดแนวทางกลางๆ มากกว่า โดยคาดการณ์ว่าราคาเฉลี่ยจะอยู่ที่ 3 ดอลลาร์ ซึ่งอิงตามการคาดการณ์ Fibonacci Retracement โดยรับรู้ถึงศักยภาพของ XRP (มีกรณีการใช้งานที่ชัดเจนและการร่วมเป็นพันธมิตร) และมีความกังวลเกี่ยวกับการรวมศูนย์และการกระจายในเบื้องต้น

Tokenmetrics ให้มุมมองที่วิเคราะห์จากข้อมูล โดยสรุปว่าในสถานการณ์ขาลง จะมีราคาเกือบๆ 0.31 ดอลลาร์หากส่วนแบ่งตลาดลดลง และในสถานการณ์ขาขึ้น จะมีราคาแตะ 0.64 ดอลลาร์หากมูลค่าตามราคาตลาดขยายตัวขึ้นอย่างมาก

สุดท้าย Coincodex เสนอว่าจะอยู่ในช่วงระหว่าง 0.34 ถึง 1.67 ดอลลาร์ พร้อมทำการวิเคราะห์ทางเทคนิคในเชิงสงวนท่าทีมากกว่า โดยเสนอว่าราคาจะอยู่ที่ประมาณ 1.20 ดอลลาร์ภายในปี 2025 นักวิเคราะห์อย่าง David Cox คาดการณ์ในลักษณะคล้ายกัน โดยราคาสูงสุดจะอยู่ที่ 1.53 ดอลลาร์ และต่ำสุดที่ 1.06 ดอลลาร์ ในทางกลับกัน ฉันทามติของผู้ใช้ Binance คาดการณ์ว่าราคาจะไม่ฟู่ฟ่ามากนักที่ 0.543 ดอลลาร์ในเดือนมิถุนายน 2024 ซึ่งบ่งชี้ว่า XRP อาจจะไต่ระดับช้าลงในช่วงต้นปี

 

การคาดการณ์ราคา XRP ในปี 2030

หากกระโดดข้ามไปปี 2030 การคาดการณ์ราคา XRP มีความแตกต่างหลากหลายอย่างมาก Coinpedia มองโลกในแง่ดีว่าจะอยู่ในช่วงราคา 15.02 ถึง 13.80 ดอลลาร์ โดยได้รับแรงหนุนจากการยอมรับและการนำ Ripple ไปใช้มากขึ้นทั่วโลก Techopedia ก็เล็งเห็นศักยภาพในการเติบโตเช่นกัน โดยคาดว่า XRP อาจมีราคาสูงสุดที่ 9 ดอลลาร์ภายในปี 2030 ซึ่งอาจกลายเป็นสกุลเงินตัวกลาง เนื่องจากเวลาที่ใช้ในการทำธุรกรรมเกือบเป็นศูนย์ และการเพิ่มขึ้นของสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง

อย่างไรก็ตาม แหล่งข้อมูลอื่นๆ มีมุมมองในเชิงสงวนท่าทีมากกว่า Tokenmetrics สรุปสถานการณ์ขาลงที่ XRP อาจต้องดิ้นรนเพื่อให้ราคาผ่านเส้น 1.06 ดอลลาร์ แม้ว่ามูลค่าตามราคาตลาดคริปโตจะอยู่ที่ 10 ล้านล้านดอลลาร์ก็ตาม ส่วน Coincodex เสนอช่วงราคาที่คล้ายกันระหว่าง 0.43 ถึง 1.74 ดอลลาร์ ซึ่งสะท้อนถึงแนวทางที่ระมัดระวังมากกว่า โดยสอดคล้องกับคะแนนฉันทามติของผู้ใช้ Binance ซึ่งคาดการณ์ว่าราคา XRP จะอยู่ที่ 0.693 ดอลลาร์ในเดือนมิถุนายน 2024

WeStarter มีมุมมองในแง่ดีมากกว่า โดยคาดการณ์ว่า XRP จะทุบสถิติราคาสูงสุดที่ 3.18 ดอลลาร์ในปี 2030 โดยราคาเฉลี่ยจะสูงกว่า 3.10 ดอลลาร์ โดยคาดว่าคดีที่ SEC ฟ้องร้องจะยุติลงและสถานการณ์ขาขึ้นหลายระลอกจะผลักดันให้ราคาสูงขึ้น ในทางตรงกันข้าม AMBCrypto คาดการณ์ว่าในปี 2024 ราคาสูงสุดจะอยู่ที่ 0.61 ดอลลาร์ และในปี 2030 ราคาสูงสุดจะอยู่ที่ 2.01 ดอลลาร์ในระยะสั้น

ปี 2030 จะฉายภาพให้เห็นถึงภาพศักยภาพในระยะยาวของ XRP แต่มีความเป็นไปได้ที่หลากหลาย โดยขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น การยอมรับของตลาด การฟ้องร้องจาก SEC และเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ถือกำเนิดขึ้น

 

การคาดการณ์ราคา XRP ในปี 2040

เมื่อเข้าสู่ปี 2040 การคาดการณ์สำหรับ XRP ก็ยิ่งเลือนรางมากขึ้น WeStarter มองมุมมองในแง่ดี โดยราคาสูงสุดจะอยู่ที่ 5.96 ดอลลาร์ และราคาเฉลี่ยเกิน 4.90 ดอลลาร์ ซึ่งการมองในแง่ดีนี้สอดคล้องกับความเชื่อมั่นของ CEO ที่ว่า XRP จะขึ้นไปแตะถึง 5 ดอลลาร์ภายในปี 2025 WeStarter ยังอ้างอิงถึงการวิเคราะห์ทางเทคนิคเชิงบวกที่สนับสนุนเส้นทางการเติบโตนี้

อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้คือ การคาดการณ์เหล่านี้เป็นการคาดการณ์ระยะยาวในอีก 15 ปีข้างหน้า ตลาดสกุลเงินดิจิทัลอาจมีความผันผวนสูง และเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันอาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อราคา XRP ได้

 

การคาดการณ์ราคา XRP ในปี 2050

เมื่อมองไปในอนาคตให้ไกลยิ่งขึ้น การคาดการณ์ราคา XRP ในปี 2050 ก็ยิ่งไม่แน่นอนมากขึ้น WeStarter คาดการณ์ราคาสูงสุดที่เป็นไปได้อยู่ที่ 7.80 ดอลลาร์ โดยมีราคาเฉลี่ยเกิน 7.10 ดอลลาร์ การคาดการณ์เหล่านี้ขึ้นอยู่กับว่าการฟ้องร้องที่ Ripple กำลังเผชิญอยู่นี้ จะจบลงด้วยดี อย่างไรก็ตาม การคาดการณ์ระยะยาวเหล่านี้มีความเลือนรางมาก เมื่อพิจารณาถึงการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในสภาพแวดล้อมของสกุลเงินดิจิทัลระหว่างปัจจุบันจนถึงปี 2050 ซึ่งเป็นระยะเวลามากกว่า 25 ปี

 

บทสรุป

เทคโนโลยีของ Ripple ซึ่งชูจุดเด่นที่การทำธุรกรรมให้เสร็จได้เกือบจะทันทีและต้นทุนการทำธุรกรรมที่ต่ำที่สุด ช่วยให้ธนาคารขนาดเล็กไม่จำเป็นต้องอาศัยสถาบันที่ใหญ่กว่าในการชำระเงินระหว่างประเทศ ซึ่งมีศักยภาพในการขยายการเข้าถึงเครือข่ายทางการเงินทั่วโลกในวงกว้างได้ ในขณะเดียวกันก็ลดต้นทุนการทำธุรกรรมข้ามพรมแดนได้มหาศาล

การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของ Ripple อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการสานความสัมพันธ์เชิงกลยุทธ์กับสถาบันการเงินต่างๆ คาดว่าจะช่วยขยายกรณีการใช้งาน XRP ให้กว้างขึ้นได้ นอกเหนือจากการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน เนื่องจาก Ripple ผสานการทำงานร่วมกับสถาบันต่างๆ มากขึ้น XRP จึงอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่อาจจะเป็นผู้นำในการปรับเปลี่ยนวิธีการชำระเงินทั่วโลกให้ไปสู่ระบบดิจิทัล

โดยรวมแล้ว แม้ว่าการคาดการณ์ราคา XRP จะมีความเป็นไปได้ในหลากหลายทิศทาง แต่ผลงานในอนาคตก็ขึ้นอยู่กับตัวแปรภายนอกอย่างมาก รวมถึงผลของคดีที่ SEC ฟ้องร้อง การตัดสินใจด้านกฎระเบียบโดยทั่วไป และแนวโน้มการยอมรับของตลาด

 

พร้อมที่จะเทรดในความได้เปรียบในแบบของคุณหรือยัง?

เข้าร่วมกับเทรดเดอร์หลายหมื่นรายและซื้อขายหุ้น CFD ในฟอเร็กซ์ หุ้น ดัชนี สินค้าโภคภัณฑ์ และสกุลเงินดิจิทัล!

 

 

การอ้างอิงถึงการคาดการณ์และผลงานที่ผ่านมาไม่ถือเป็นตัวบ่งชี้ผลงานในอนาคตที่เชื่อถือได้

รูปภาพที่แสดงมีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ในการประกอบภาพเท่านั้น ข้อมูลมาจากผู้ให้บริการบุคคลที่สาม

ข้อมูลนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำด้านผลิตภัณฑ์ทางการเงินหรือคำแนะนำด้านการลงทุนใดๆ ไม่ถือเป็นคำแนะนำ ข้อเสนอในการซื้อหรือขาย หรือการชักชวนให้เสนอซื้อหรือขายหลักทรัพย์ ผลิตภัณฑ์ทางการเงิน หรือตราสารใดๆ หรือการเข้าร่วมในกลยุทธ์การซื้อขายใดๆ ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นโดยไม่คำนึงถึงวัตถุประสงค์ สถานะทางการเงิน และความต้องการของคุณ Axi ไม่รับรองและไม่รับผิดชอบใดๆ เกี่ยวกับความถูกต้องและความสมบูรณ์ของเนื้อหาในสิ่งพิมพ์นี้ ผู้อ่านควรใช้วิจารณญาณด้วยตนเอง



Alex Macris

Alex Macris

ด้วยประสบการณ์ที่ครอบคลุมด้านฟอเร็กซ์ หุ้น และสกุลเงินดิจิทัล อเล็กซ์ได้เขียนรายงานทางการเงินและตลาดหลักทรัพย์ให้กับสิ่งพิมพ์และสำนักข่าวชั้นนำต่างๆ นอกเหนือจากตลาดการเงินแล้ว เขายังฝึกฝนทักษะของตนเองด้วยการค้นคว้าและแก้ไขข้อตกลงระหว่างประเทศและรายงานของรัฐ รวมถึงผลิตทรัพยากรมัลติมีเดียสำหรับบริษัทและองค์กรต่างๆ

นอกเหนือจากงานเขียนแล้ว อเล็กซ์สามารถพูดในภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศส และภาษากรีกได้อย่างคล่องแคล่วและความหลงใหลในเสียง ผลงานของเขาแสดงให้เห็นถึงทักษะที่หลากหลายซึ่งครอบคลุมการผลิตพอดแคสต์ สื่อการศึกษา และโฆษณา เขาเป็นคนทำงานเป็นทีมและเรียนรู้ตลอดชีวิต เขาจึงมีมุมมองที่สมดุลทั้งในภาพรวมและรายละเอียดปลีกย่อย

ติดตามเขาได้ที่: LinkedIn


More on this topic

อ่านเพิ่มเติม

พร้อมที่จะเทรดในความได้เปรียบในแบบของคุณหรือยัง?

เริ่มการซื้อขายกับโบรกเกอร์ระดับโลกที่ได้รับรางวัล

ลองบัญชีทดลอง ฟรี เปิดบัญชีเทรดจริง